วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554

เครื่องแบบนิสิตกับศักดิ์ศรีของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

เครื่องแบบนิสิตกับศักดิ์ศรีของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ในปัจจุบันค่านิยม ความคิด เรื่องเครื่องแต่งกาย ของวัยรุ่นที่กำลังอยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องแบบนิสิตทั้งหญิงและชายในมาหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ของเรา กำลังกลายเป็นปัญหาของสังคมไทยที่ผู้ใหญ่ ต้องหันมาให้ความสำคัญกับพฤติกรรมการแต่งกายแบบล่อแหลม ชอบสวมเสื้อที่รัดเข้ารูป กระโปรงสั้น ผ่าสูง หรือไม่ก็สวมกางเกงยีนซีดๆ ขาดๆ และสวมรองเท้าแตะ ซึ่งมองดูเป็นแฟชั่นที่ไม่เหมาะสม และเป็นการไม่ให้เกียรติกับสถาบันที่พวกเขานั้นได้ศึกษาอยู่ ทั้งยัง อาจก่อให้เกิดอันตรายมากมายตั่งแต่การถูลวนลามแม้ทางสายตา ถึงการถูกล่อลวงข่มขืนโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักศึกษาหญิง ต้องยอมรับว่าแฟชั่นเสื้อผ้าการแต่งกายของวัยรุ่นเปลี่ยนแปลงไปมาก จากเดิมที่นิสิตจะให้เกียรติสถาบันที่พวกเขานั้นศึกษาอยู่ ด้วยการแต่งการให้ถูกระเบียบที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดไว้ สังเกตได้จากอดีต นิสิตหญิงของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ของเรานั้น จะแต่งกายถูกระแบบของมหาวิทยาลัยทุกคน เป็นที่เลืองลือกันเลยว่านิสิตของมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นผู้มีระเบียบวินัยรักศักดิ์ศรีของตนเองและสถาบัน แต่ในปัจจุบันนี้ค่านิยมเหล่านั้นกำลังจางหายไป และเกิดค่านิยมการแต่งตัวตามวัฒนธรรมจากต่างชาติ โดยเฉเพาะอย่างยิ่งยิ่งชุดเครื่องแบบนิสิตในปัจจุบันก็ได้รับอิทธิพลดังกล่าวด้วย ทำให้ผู้ใหญ่ในสังคมต่างก็รู้สึกห่วงทัศนคติของวัยรุ่นกับการแต่งกายเช่นนี้ เพราะว่าภาพที่แสดงออกมาให้กับผู้คนทั่วไปกลับกลายเป็นการสื่อความหมายใน เรื่องเพศ ไม่น่ามอง มากกว่าความโก้เก๋หรือสวยงามอย่างที่ตัวนิสิตเองคิดไว้ สำหรับวิธีการแก้ไขที่ดีผมคิดว่าสถาบันควร สนับสนุนให้นักศึกษาที่แต่งกายสุภาพเรียบร้อยได้รับการยกย่อง และคัดเลือกให้ทำหน้าที่เป็นผู้นำหรือตัวแทนนิสิตร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ของมหาวิทยาลัย ในชุดเครื่องแบบนักศึกษาที่ถูกระเบียบซึ่งในปัจจุบันมหาวิทยาลัยของเรานั้นก็ได้มีโครงการคัดเลือกนิสิตที่มีการแต่งการที่เรียบร้อยจากแต่ละคณะมารับรางวัลในวันปฐมนิเทศนิสิตใหม่ทุกปี เพื่อให้นิสิตที่กำลังจะก้าวมาสู่รั้วเกษตรนั้นมีความตระหนักถึงความสำคัญของการแต่กายที่ถูกระเบียบ อย่างน้อยจะได้กระตุ้นเตือนความคิด หรือปรับเปลี่ยนทัศนคติการแต่งกายให้ถูกต้องเหมาะสมกับตนเองและสังคมรวมถึงการให้เกียรติมหาวิทยาลัยได้ การได้ส่งเสริมการจัดกิจกรรมและการส่งเสริมให้นิสิตเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาบุคลิกภาพในหลายด้าน ตั้งแต่การนั่ง การยืน การเดิน การไหว้ การนั่งรับประทานอาหาร ไปจนถึงเรื่องการแต่งกาย กระบวนการต่างๆ เหล่านี้ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในเรื่องการเข้าสังคมให้กับนักศึกษา การที่เพื่อนๆ ชอบแต่งตัว หรืออยากให้เป็นจดเด่น จุดสนใจกับเพศตรงข้าม นั่นคือความคิดและสิทธิส่วนบุคคลที่ไม่สามารถบังคับได้ แต่เมื่อการกระทำเช่นนี้ส่งผลเสียต่อตัวเอง และส่งผลกระทบต่อสังคม การกลับมาใช้ความรู้ความสามารถ ที่เรามีอยู่มานำเสนอแทน น่าจะเป็นการสร้างจุดสนใจที่มั่นคงและยั่งยืนมากกว่า สิ่งที่อยากจะให้ทางมหาวิทยาลัยทำต่อจากนี้ก็คือ การปลูกจิตสำนึกให้นักศึกษาเกิดความภาคภูมิใจ และรักในความเป็นสถาบันให้มากขึ้น เชื่อว่าเมื่อเราได้ใช้สื่อประชาสัมพันธ์รูปแบบต่างๆ และกิจกรรมเสริมหลักสูตร เข้ามาช่วยปรับเปลี่ยนทัศนคติใหม่ การสวมใส่เครื่องแบบชุดนักศึกษาของเพื่อนๆ ทุกคนก็จะต้องคำนึงถึงเกียรติยศศักดิ์ศรีของตัวเองและมหาวิทยาลัยเช่นกัน สิ่งที่อยากฝากบอกเพื่อนๆ พี่ ๆ น้องๆ  ก็คือ การแต่งตัวตามสไตล์ที่ชอบหรือเป็นตัวของตัวเองไม่ไปลอกเลียนแบบใครเป็น เรื่องที่ดี แต่เมื่อเราอยู่รวมกับคนหลายกลุ่มหลายวัย ในสถานที่ที่เป็นทางการโดย เฉพาะแหล่งการศึกษา การแต่งกายให้เหมาะสมกับสถานที่เหมาะสมสถานะของตัวเอง เป็นสิ่งที่สำคัญ และน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนที่พบเห็นนั้นชื่นชมและสร้างคุณค่าให้กับตนเองรวมถึงสถาบันด้วย การที่มหาวิทยาลัยออกกฎระเบียบให้นักศึกษาได้ปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องชุดเครื่องแบบนิสิต ไม่ใช่เป็นการทำเพื่อชื่อเสียงเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับมหาวิทยาลัย เพียงอย่างเดียว แต่นั่นยังหมายถึงการฝึกฝนให้นิสิตได้เรียนรู้ปรับตัวเองให้อยู่ร่วมกัน กับผู้คน และรู้จักเคารพกติกาของสังคม รวมถึงการป้องกันอันตรายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับตัวนิสิตเองอีกด้วย การแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงามเป็นสิ่งที่สร้างมนต์เสน่ห์ดึงดูดสายตาผู้คน ซึ่งเครื่องแบบนิสิตนั้นก็จัดได้ว่าเป็นเครื่องแบบที่สวยงาม เมื่อเราเห็นคุณค่าของมันและแต่งให้ถูกตามระเบียบแบบแผนที่ทางมหาวิทยาลัยได้กำหนดเอาไว้ แต่ถ้าเมื่อใดการแต่งกายในลักษณะนั้นกลับสร้างความรู้สึกขัดแย้งกับวัฒนธรรมของสังคมพฤติกรรมการแต่งกายของนิสิต ที่กำลังฮิตอินเทรนด์อยู่ในเวลานี้ จึงย่อมบ่มเพาะปัญหาให้กับตัวผู้สวมใส่ และบั่นทอน ชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของมหาวิทยาลัย เชื่อว่าการที่มหาวิทยาลัยสนับสนุนให้นักศึกษาที่แต่งกายสุภาพเรียบร้อยได้ รับการยกย่อง หรือคัดเลือกให้ทำหน้าที่เป็นผู้นำ หรือตัวแทนร่วมทำกิจกรรมต่างๆ จะช่วยชี้นำเพื่อนนักศึกษาให้รู้จักเห็นคุณค่าของการสวมใส่เครื่องแบบชุดนิสิตที่ถูกต้อง

มาถึงตอนนี้เราคงต้องหันมาใส่ใจกับการแต่งกายของนักศึกษาทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยเฉพาะนักศึกษาผู้หญิง ถ้าแต่งกายเกินขอบเขตอันเหมาะสม ล่อแหลมเกินควร เปิดเผยเนื้อตัวร่างกายเกินไป จนมีลักษณะยั่วยุทางเพศหรือไม่สุภาพไม่เหมาะสมกับกาลเทศะ ไม่ว่าจะเป็นชุดที่แต่งในโอกาสทั่วไป หรือชุดนักศึกษาจะถูกลงโทษด้วยการห้ามขึ้นอาคารหรือเข้าห้องเรียน ยิ่งกว่านั้น หน่วยงานต่างๆ ในมหาวิทยาลัยมีสิทธิงดให้บริการได้ หากนิสิตยังแต่งการที่ผิดระเบียบเช่นนี้อยู่ ก็เป็นสิทธิของอาจารย์ที่ปรึกษา หรืออาจารย์ผู้สอนที่จะลงโทษด้วยมาตรการใด ๆ  ก็ได้ที่อยู่ในขอบเขตอำนาจของท่าน เชื่อว่าทุก ๆ นิสิตเองก็ไม่อยากถูกลงโทษอาจารย์เองก็ไม่อยากที่จะต้องมานั่งว่ากล่าวตักเตือนเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ถ้าเราลองหันมาคุยกันแล้วมาพบกันคนละครึ่งทาง นิสิตเองก็ให้เกียรติอาจารย์ ให้เกียรติมหาวิทยาลัย ด้วยการแต่งการที่สุภาพเรียบร้อย อาจารย์หรือทางมหาวิทยาลัยเองก็จะให้เกียรติกับตัวนิสิตเองด้วยเช่นกัน และสิ่งสำคัญคำว่า"กาลเทศะ"หากนิสิตไม่มีคำนี้ในใจแล้วก็คงยากที่หน่วยงานของรัฐ หรือสถานประกอบการที่จะรับนักศึกษาเข้าทำงานเพราะเขาก็จะต้องมีเครื่องแบบของเขาเช่นกัน สิทธิ ส่วนบุคคล เรื่องความพอใจของแต่ละคนก็เข้าใจ แต่การเป็นนิสิตของมหาวิทยาลัยที่มีหน้าที่เรียน ในบางครั้งเราอาจต้องติดต่อหน่วยงานต่างๆ ก็ต้องคำนึงถึงการแต่งกายที่เหมาะสมให้ถูกต้องตามกาลเทศะและให้เกียรติสถาน ที่ด้วยเช่นกัน อยู่บ้าน อยู่หอ อยู่กับเพื่อน แต่งอย่างไรไม่มีใครว่า แต่แต่งชุดนักศึกษาต้องสุภาพ เรียบร้อย

เชื่อว่าพวกเรานั้นจะรักมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ของเรามากพอที่จะปรับเปลี่ยนทัศนคติของตนเองในเรื่องของการแต่งกายให้ถูกต้อง เหมาะสมตามระเบียบของมหาวิทยาลัยที่เรารัก เพื่อศักดิ์ศรีทั้งของตัวเราเอง และของมหาวิทยาลัยต่อไป

                                                                                  นายสุรวุฒิ นิ่มทิม 5310501355

1 ความคิดเห็น: