คำสั่ง: จงเขียนคำสั่งที่ใช้ในการประกาศ สร้าง และกำหนดค่าเริ่มต้นให้กับอาร์เรย์ที่มีชื่อ ชนิดของข้อมูล และ ค่าเริ่มต้นเป็นดังที่กำหนดให้ต่อไปนี้

ชื่ออาร์เรย์ = score ชนิดของข้อมูล = double ค่าเริ่มต้น = 6.5, 7.9, 4.3, 9.1, 8.8
```
     score = 
```
ชื่ออาร์เรย์ = letter ชนิดของข้อมูล = char ค่าเริ่มต้น = 'm', 'c'
```
      letter = 
```
ชื่ออาร์เรย์ = carbrand ชนิดของข้อมูล = string ค่าเริ่มต้น = "Honda", "Toyota", "Mazda", "BMW"
```
      carband = 
```

ด้านล่างเป็นการประกาศและกำหนดค่าเริ่มต้นให้กับอาร์เรย์ arr:

    int [] arr = {1,3,7,10,15,20,19};

ในการอ้างถึงข้อมูลในอาร์เรย์ arr สามารถกระทำโดยใช้ดัชนีระบุตำแหน่งในอาร์เรย์ ในภาษา C# ดัชนีตัวแรกคือ 0
จงเติมโปรแกรมแต่ละบรรทัดด้านล่างให้ผลลัพธ์เป็นตามที่ระบุ

ต้องการให้พิมพ์ 15
```
    Console.WriteLine(arr[]);
```
ต้องการให้พิมพ์ 19
```
    Console.WriteLine(arr[]);
```
ต้องการให้พิมพ์ 29
```
    Console.WriteLine(arr[] + arr[]);
```
พิมพ์ขนาดของอาร์เรย์ arr
```
    Console.WriteLine(arr.);
```

โปรแกรมด้านล่าง รับจำนวนเต็ม n จากนั้นพิมพ์จำนวนตั้งแต่ 1 ถึง n

ตัวอย่างการทำงาน

เติมโปรแกรมด้านล่างให้สมบูรณ์

[hide line #]
using System;
class counting
{
  public static void Main(string [] args)
  {
    int n = int.Parse(Console.ReadLine());
    for(; ; )
      Console.WriteLine();
  }
}

โปรแกรมด้านล่าง รับจำนวนเต็ม n จากนั้นพิมพ์จำนวนตั้งแต่ 0 ถึง n-1

ตัวอย่างการทำงาน

เติมโปรแกรมด้านล่างให้สมบูรณ์

using System;
class counting
{
  public static void Main(string [] args)
  {
    int n = int.Parse(Console.ReadLine());
    for(; ; )
      Console.WriteLine();
  }
}

โปรแกรมด้านล่าง รับจำนวนเต็ม n จากนั้นพิมพ์จำนวนตั้งแต่ n ถึง 1

ตัวอย่างการทำงาน

เติมโปรแกรมด้านล่างให้สมบูรณ์

using System;
class counting
{
  public static void Main(string [] args)
  {
    int n = int.Parse(Console.ReadLine());
    for(; ; )
      Console.WriteLine();
  }
}

จงเติมโปรแกรมด้านล่างให้สมบูรณ์เพื่อให้โปรแกรมต่อไปนี้ เป็นโปรแกรมที่รับข้อมูลเป็นเลขจำนวนเต็ม 5 จำนวนจากผู้ใช้ จากนั้นแสดงข้อมูลทั้ง 5 จำนวนนี้ทางหน้าจอ
ตัวอย่างผลการทำงาน

30
20
15
0
9
Your data:
data[0] = 30
data[1] = 20
data[2] = 15
data[3] = 0
data[4] = 9

using System;
class Program
{
    static void Main()
    {
        int i;
        int [] data = ;

        for (i = 0; i < 5; i++)
            data[] = int.Parse(Console.ReadLine());
        Console.WriteLine();

        for(; ; )
            Console.WriteLine("data[{0}] = {1}",,);
    }
}

จงเติมโปรแกรมด้านล่างให้สมบูรณ์
ผลลัพธ์ที่ต้องการเป็นดังนี้

คำแนะนำ ในส่วน while แรก จะเป็นการกำหนดค่าให้กับอาร์เรย์ x ที่สร้างขึ้นมาก ในส่วน while ที่สองจะเป็นการพิมพ์ค่าของข้อมูลในอาร์เรย์

using System;
class example
{
  public static void Main(string [] args)
  {
    int [] x = new int[10];

    /*  initialize array x   */
    int i = 0;
    int a = 1;
    while()
    {
      
      a += 20;
      i++;
    }

    /*  print array x  */
    i = ;
    while()
    {
      Console.WriteLine();
      i++;
    }
  }
}

จงเติมโปรแกรมด้านล่างให้สมบูรณ์
ผลลัพธ์ที่ต้องการเป็นดังนี้

คำแนะนำ การทำงานของโปรแกรมนี้คล้ายกับข้อก่อน อย่างไรก็ตามให้พิจารณาลำดับของการพิมพ์ข้อมูลในอาร์เรย์จากตัวอย่าง

using System;
class example
{
  public static void Main(string [] args)
  {
    int [] x = new int[10];

    /*  initialize array x   */
    int i = 0;
    int a = 1;
    while()
    {
      
      a += 20;
      i++;
    }

    /*  print array x  */
    i = ;
    while()
    {
      Console.WriteLine();
      
    }
  }
}

จงเติมโปรแกรมด้านล่างให้สมบูรณ์
ผลลัพธ์ที่ต้องการเป็นดังนี้

using System;
class example
{
  public static void Main(string [] args)
  {
    int [] x = new int[10];

    /*  initialize array x   */
    int a = 1;
    for(int i = 0; ; )
    {
      
      a += 20;
    }

    /*  print array x  */
    for( ;  ; )
      Console.WriteLine();
  }
}

ให้เขียนโปรแกรมที่คำนวณค่าเฉลี่ยของคะแนนของนักเรียนทั้งหมด โดยโปรแกรมจะสอบถามจำนวนนักเรียนก่อนในลำดับแรก จากนั้นจึงเริ่มถามคะแนนของนักเรียนแต่ละคน เพื่อนำมาคำนวณหาค่าเฉลี่ยของคะแนนของนักเรียนทั้งหมด ดังตัวอย่างด้านล่าง
ตัวอย่างผลการทำงาน

Input numbers of students : 4
Score of student1 = 80.2
Score of student2 = 67.5
Score of student3 = 70
Score of student4 = 68.5
Average score = 71.55

ให้แสดงผลค่าเฉลี่ยเป็นทศนิยม 2 ตำแหน่ง นั่นคือให้พิมพ์ด้วยเมธอด Console.WriteLine โดยใช้รูปแบบ {0:f2}

using System;
class ArrayAVG
{
    static void Main()
    {
        int n;
        Console.Write("Input numbers of students : ");
        n = int.Parse(Console.ReadLine());
        double [] x = new double[n];
        for (int i =0;i<n;i++)
        {
         Console.Write("Score of student{0} = ",i+1);
         x[i] = double.Parse(Console.ReadLine());
        }
        double sum=0;
        for (int i=0;i<n;i++)
        {
         sum+=x[i];
        }
        double ans=sum/n;
        Console.WriteLine("Average score = {0:f2}",ans);
    }
}

จงเขียนเมธอด ReadArray อ่านอาร์เรย์จากผู้ใช้
เมธอดดังกล่าวจะรับจำนวนเต็ม n แทนจำนวนข้อมูลในอาร์เรย์ จากนั้นจะอ่านจำนวนเต็มอีก n จำนวนมาเก็บในอาร์เรย์ และคืนอาร์เรย์นั้นออกมา
ในโปรแกรมด้านล่างมีเมธอด Main เตรียมให้สำหรับทดสอบเมธอด ReadArray แล้ว

ตัวอย่างการทำงาน 1

5
10
20
15
25
50
Array has 5 elements:
10
20
15
25
50

คำอธิบาย: บรรทัดแรก 5 ระบุจำนวนข้อมูลในอาร์เรย์ จากนั้น 10, 20, 15, 25, และ 50 คือข้อมูลในอาร์เรย์ที่ผู้ใช้ป้อน

ตัวอย่างการทำงาน 2

2
100
75
Array has 2 elements:
100
75

using System;
class example
{
  static int [] ReadArray()
  {
    int n = int.Parse();

    int [] a = ;    /* Create new array of length n */
    for(int i = 0; ; i++)
      a[] = ;
    return a;
  }

  public static void Main(string [] args)
  {
    int [] arr = ReadArray();
    Console.WriteLine("Array has {0} elements:", arr.Length);
    foreach(int x in arr)
      Console.WriteLine(x);
  }
}

จงเขียนเมธอด FindAverage ที่รับพารามิเตอร์เป็นอาร์เรย์ของจำนวนเต็ม และคืนค่าเป็นค่าเฉลี่ยของข้อมูลในอาร์เรย์ให้สมบูรณ์
ในโปรแกรมด้านล่างมีเมธอด Main เตรียมให้สำหรับทดสอบเมธอด FindAverage ที่เขียนแล้ว อย่างไรก็ตามเมธอด Main เรียกใช้เมธอด ReadArray ในการอ่านข้อมูลเข้า ดังนั้นในการทดลองให้ป้อนเมธอด ReadArray จากข้อที่แล้วด้วย
ในการตอบไม่ต้องใส่เมธอด ReadArray อีก
คำแนะนำ: สามารถเรียกใช้คุณสมบัติ Length ของอารเรย์เพื่ออ่านจำนวนข้อมูลในอาร์เรย์ได้ เช่น ถ้าเราเรียก a.Length จะได้จำนวนข้อมูลในอาร์เรย์ a

ตัวอย่างการทำงาน 1

5
10
20
15
25
50
Average is 24.000

ตัวอย่างการทำงาน 2

2
100
75
Average is 87.500

using System;
class example
{
  static int [] ReadArray()
  {
    /*               THIS PART IS INTENTIONALLY HIDDEN               */
    /* To test this program, you have to write this method yourself. */

  }

  static double FindAverage(int [] a)
  {
    double total = 0;
    for(int i = 0; ; i++)
      ;
    return ;
  }

  public static void Main(string [] args)
  {
    int [] arr = ReadArray();
    double avr = FindAverage(arr);
    Console.WriteLine("Average is {0:f3}",avr);
  }
}

จงเขียนเมธอด FindAverage ที่รับพารามิเตอร์เป็นอาร์เรย์ของจำนวนเต็ม และคืนค่าเป็นค่าเฉลี่ยของข้อมูลในอาร์เรย์ให้สมบูรณ์ สำหรับข้อนี้แตกต่างจากข้อเดิมที่บังคับให้ใช้คำสั่ง foreach
ในโปรแกรมด้านล่างมีเมธอด Main เตรียมให้สำหรับทดสอบเมธอด FindAverage ที่เขียนแล้ว อย่างไรก็ตามเมธอด Main เรียกใช้เมธอด ReadArray ในการอ่านข้อมูลเข้า ดังนั้นในการทดลองให้ป้อนเมธอด ReadArray จากข้อที่แล้วด้วย
ในการตอบไม่ต้องใส่เมธอด ReadArray อีก
คำแนะนำ: สามารถเรียกใช้คุณสมบัติ Length ของอารเรย์เพื่ออ่านจำนวนข้อมูลในอาร์เรย์ได้ เช่น ถ้าเราเรียก a.Length จะได้จำนวนข้อมูลในอาร์เรย์ a

ตัวอย่างการทำงาน 1

5
10
20
15
25
50
Average is 24.000

ตัวอย่างการทำงาน 2

2
100
75
Average is 87.500

using System;
class example
{
  static int [] ReadArray()
  {
    /*               THIS PART IS INTENTIONALLY HIDDEN               */
    /* To test this program, you have to write this method yourself. */

  }

  static double FindAverage(int [] a)
  {
    double total = 0;
    foreach()
      ;
    return ;
  }

  public static void Main(string [] args)
  {
    int [] arr = ReadArray();
    double avr = FindAverage(arr);
    Console.WriteLine("Average is {0:f3}",avr);
  }
}

จงเขียนเมธอด CountOdd ที่รับพารามิเตอร์เป็นอาร์เรย์ของจำนวนเต็ม และคืนค่าเป็นจำนวนของข้อมูลในอาร์เรย์ที่เป็นเลขคี่
ในโปรแกรมด้านล่างมีเมธอด Main เตรียมให้สำหรับทดสอบเมธอด CountOdd ที่เขียนแล้ว อย่างไรก็ตามเมธอด Main เรียกใช้เมธอด ReadArray ในการอ่านข้อมูลเข้า ดังนั้นในการทดลองในเครื่องของนิสิตให้ป้อนเมธอด ReadArray จากข้อที่แล้วด้วย
ในการตอบให้เขียนเมธอด CountOdd ในช่องว่าง โดยไม่ต้องใส่เมธอด ReadArray อีก

ตัวอย่างการทำงาน 1

5
10
20
15
25
50
There are 2 odd numbers

ตัวอย่างการทำงาน 2

2
100
75
There are 1 odd numbers

using System;
class example
{
  static int [] ReadArray()
  {
    /*               THIS PART IS INTENTIONALLY HIDDEN               */
    /* To test this program, you have to write this method yourself. */

  }

   static int CountOdd( int[] arr){
   int n=0;
   for(int i=0;i<arr.Length;i++)
   {
    if (arr[i]%2!=0)
     n++;
   }
   return n;
}

  public static void Main(string [] args)
  {
    int [] arr = ReadArray();
    Console.WriteLine("There are {0} odd numbers",CountOdd(arr));
  }
}

จงเขียนเมธอด Find ที่รับพารามิเตอร์ดังนี้

อาร์เรย์ a ของจำนวนเต็ม ไม่มีจำนวนเต็มที่ซ้ำกันในอาร์เรย์
จำนวนเต็ม g

จากนั้นให้ค้นหาว่าค่า g อยู่ในอาร์เรย์หรือไม่ ให้เมธอดคืนค่าดัชนีในอาร์เรย์ที่มีค่า g เก็บอยู่ ถ้าไม่พบให้คืนค่า -1
ในโปรแกรมด้านล่างมีเมธอด Main เตรียมให้สำหรับทดสอบเมธอด Find ที่เขียนแล้ว

ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ถูกต้อง

Array 1
0
6
9
-1
-1
Array 2
3
-1
-1
6

using System;
class example
{
  static int Find(int [] arr,int i)
 {
  for(int x=0;x<arr.Length;x++){
   if (arr[x]==i)
    return x;
  }
  return -1;
 }

  public static void Main(string [] args)
  {
    int [] array1 = {1,2,3,4,5,6,7,8,9,10};
    Console.WriteLine("Array 1");
    Console.WriteLine(Find(array1,1));
    Console.WriteLine(Find(array1,7));
    Console.WriteLine(Find(array1,10));
    Console.WriteLine(Find(array1,100));
    Console.WriteLine(Find(array1,-1));

    int [] array2 = {7,6,4,10,24,1,1200};
    Console.WriteLine("Array 2");
    Console.WriteLine(Find(array2,10));
    Console.WriteLine(Find(array2,100));
    Console.WriteLine(Find(array2,1000));
    Console.WriteLine(Find(array2,1200));
  }
}

ใน C# เราสามารถใช้สตริง ได้ในลักษณะเดียวกับอาร์เรย์ แต่ไม่สามารถแก้ค่าได้
พิจารณาตัวอย่างจากส่วนของโปรแกรมด้านล่างนี้

    string s = "Hello";
    Console.WriteLine(s.Length);
    Console.WriteLine(s[0]);
    Console.WriteLine(s[1]);
    Console.WriteLine(s[3]);

ผลลัพธ์คือ

5
H
e
l

แต่ถ้าเราสั่ง s[1] = 'G'; โปรแกรมจะคอมไพล์ไม่ผ่าน เพราะว่าการอ้างสตริงแบบอาร์เรย์ทำได้เฉพาะในการอ่านเท่านั้น
จงเขียนโปรแกรมที่รับสตริง 1 ตัว จากนั้นให้พิมพ์สตริงดังกล่าวทีละตัวอักษร อักษรละหนึ่งบรรทัด

ตัวอย่างการทำงาน

Cool!
C
o
o
l
!

using System;
class example
{
  public static void Main(string[] args)
  {
    string s = Console.ReadLine();
    int i = s.Length;
   for(int a =0;a<s.Length;a++)
   {
    Console.WriteLine(s[a]);
   }

  }
}

ในข้อนี้เราจะศึกษาเกี่ยวกับข้อมูลประเภท char เพื่อใช้ในการทำโจทย์ข้อถัด ๆ ไป

การคำนวณกับ char

ใน C# เราสามารถลบข้อมูลแบบอักขระ และได้ผลลัพธ์เป็นจำนวนเต็มได้
ทดลองโปรแกรมด้านล่าง ให้ทดลองป้อนอักขระต่าง ๆ เช่น A, B, a, c, 0, 1, z, # ทีละตัว ให้กับโปรแกรม

using System;

class teststring
{
  public static void Main(string [] args)
  {
    string s = Console.ReadLine();
    char c = s[0];
    Console.WriteLine(c);
    Console.WriteLine((int)c);
    Console.WriteLine(c - 'A');
    Console.WriteLine(c - '0');
    Console.WriteLine(c - 'a');
  }
}

สองคำสั่งแรกเป็นการพยายามอ่านข้อมูลแบบ char โดยเราจะอ่านค่าสตริง จากนั้นนำตัวอักษรแรกของสตริงดังกล่าวมาเก็บในตัวแปร c เราจะพิมพ์ค่าของตัวแปร c, ค่าเมื่อแปลงเป็นจำนวนเต็ม ((int) c) และผลลัพธ์จากการลบ c ด้วยค่าต่าง ๆ

โปรแกรมพิมพ์ลำดับอักขระ

โปรแกรมด้านล่าง รับตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์ใหญ่ แล้วระบุว่าเป็นตัวอักษรตัวที่เท่าใด

using System;

class teststring
{
  public static void Main(string [] args)
  {
    string s = Console.ReadLine();
    char c = s[0];
    int o = c - 'A' + 1;
    Console.WriteLine("{0} is the {1}-th character.", c, o);
  }
}

โปรแกรมดังกล่าว มีผลลัพธ์ดังเช่นด้านล่างนี้ (เรียกทำงานหลายรอบ)

A
A is the 1-th character.
B
B is the 2-th character.
H
H is the 8-th character.
Z
Z is the 26-th character.

อย่างไรก็ตาม ถ้าเราพิมพ์ a หรือ c ผลลัพธ์ที่ได้จะผิดพลาด โดยโปรแกรมจะระบุว่าเป็นตัวอักษรตัวที่ 33 และ 35 ตามลำดับ

งานของคุณ

จงแก้โปรแกรมด้านบน ให้สามารถทำงานได้กับทั้งกรณีที่ข้อมูลป้อนเข้าเป็นตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ และตัวอักษรพิมพ์เล็ก

ตัวอย่างการทำงาน 1

A
A is the 1-th character.

ตัวอย่างการทำงาน 2

a
a is the 1-th character.

ตัวอย่างการทำงาน 3

c
c is the 3-th character.

ตัวอย่างการทำงาน 4

H
H is the 8-th character.

using System;
using System.Collections.Generic;

namespace shit
{
 class MainClass
 {
  public static void Main(string[] args)
  {
    string s = Console.ReadLine();
      char c = s[0];
       if((int) c <=91)
       {
       int o = c - 'A' + 1;
       Console.WriteLine("{0} is the {1}-th character.", c, o);
       Console.ReadLine();
       }
       else
       {
       int o = c - 'a' + 1;
       Console.WriteLine("{0} is the {1}-th character.", c, o);
       Console.ReadLine();
       }
  }
 }
}

จงเขียนเมธอด CountChar ที่รับพารามิเตอร์ดังนี้

สตริง st
อักขระ c

จากนั้นคืนค่าเป็นจำนวนครั้งที่อักขระ c ปรากฏใน st
ด้านล่างมีโปรแกรมหลัก Main ให้แล้ว โปรแกรมดังกล่าวอ่านสตริงจากผู้ใช้ และรับอักขระที่ต้องการให้นับ จากนั้นเรียกเมธอด CountChar ให้ค้น

ตัวอย่างการทำงาน 1

Hello world
l
3

ตัวอย่างการทำงาน 2

Welcome to the new world
w
2

using System;
class countchar
{
  static int CountChar(string st, char c)
  {
    int n=0;
   for(int i=0; i<st.Length ; i++){
    if(st[i]==c)
     n++; 
   }
   return n;

  }

  public static void Main(string [] args)
  {
    string input = Console.ReadLine();
    string query = Console.ReadLine();
    char q = query[0];
    Console.WriteLine(CountChar(input,q));
  }
}

จงเขียนโปรแกรมรับสตริง s จากนั้นพิมพ์สตริง s ย้อนกลับ (ดูจากตัวอย่าง)
คำแนะนำ: ถ้าต้องการพิมพ์โดยไม่ขึ้นบรรทัดใหม่ สามารถใช้ Console.Write ได้

ตัวอย่างการทำงาน 1

Hello
olleH

ตัวอย่างการทำงาน 2

This is the beginning
gninnigeb eht si sihT

เขียนทั้งโปรแกรมลงด้านล่างนี้

using System;
class countchar
{


  public static void Main(string [] args)
  {
    string input = Console.ReadLine();
     for (int i = input.Length-1 ; i>=0 ; i--){
      Console.Write(input[i]);
    }
 }
}

ข้อความสาระดี ๆ

วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

อาร์เรย์ 1

ตัวอย่างการทำงาน

ตัวอย่างการทำงาน

ตัวอย่างการทำงาน

ตัวอย่างการทำงาน 1

ตัวอย่างการทำงาน 2

ตัวอย่างการทำงาน 1

ตัวอย่างการทำงาน 2

ตัวอย่างการทำงาน 1

ตัวอย่างการทำงาน 2

ตัวอย่างการทำงาน 1

ตัวอย่างการทำงาน 2

ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ถูกต้อง

ตัวอย่างการทำงาน

การคำนวณกับ char

โปรแกรมพิมพ์ลำดับอักขระ

งานของคุณ

ตัวอย่างการทำงาน 1

ตัวอย่างการทำงาน 2

ตัวอย่างการทำงาน 3

ตัวอย่างการทำงาน 4

ตัวอย่างการทำงาน 1

ตัวอย่างการทำงาน 2

ตัวอย่างการทำงาน 1

ตัวอย่างการทำงาน 2